Contact Us (573) 864-2156. Email: zionwealthins@gmail.com
ทัชดาวประกันชีวิต 101
เรียนรู้เกี่ยวกับประกันชีวิตกับดาวกันค่ะ เพื่อที่คุณจะได้เข้าใจประกันชีวิตมากขึ้น เลือกประกันชีวิตที่เหมาะสมกับสถานการณ์ทางการเงิน ครอบครัว และเป้าหมายของคุณค่ะ
บทที่ 1 ประกันชีวิตคืออะไร ความสำคัญ?
"เพราะชีวิตไม่แน่นอน… แต่เราวางแผนได้"
วันนี้เราจะมาเริ่มบทเรียนแรกในคอร์ส "ประกันชีวิตเข้าใจง่าย"
หลายคนอาจจะคิดว่า...
"ฉันยังไม่จำเป็นต้องมีประกันหรอก เดี๋ยวค่อยซื้อก็ได้"
หรือบางคนอาจคิดว่า "ประกันชีวิตมันแพง ใช้เงินเปลือง"
แต่ดาวอยากให้คุณลองมองแบบนี้ค่ะ...
💔 ลองจินตนาการ...
หากวันหนึ่งเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นกับเรา –
เรามีครอบครัว มีคนที่เรารัก…
เรายังมีบ้านที่ต้องผ่อน รถที่ต้องจ่าย หรือแม้แต่ลูกที่ต้องเรียนหนังสือ
ใครจะดูแลพวกเขา ถ้าเราไม่อยู่?
นั่นแหละค่ะ... คือหน้าที่ของประกันชีวิต
ไม่ใช่แค่ "เงินชดเชย" แต่คือ
"ความสบายใจให้กับคนที่คุณรัก"
ในวันที่เขาเสียใจ... อย่างน้อยเขาไม่ต้องกังวลเรื่องเงิน
✅ ประกันชีวิตสามารถ...
คุ้มครองครอบครัวเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน
ช่วยใช้หนี้ หรือลดภาระค่าใช้จ่ายที่เหลือไว้
วางแผนอนาคตลูก
วางแผนเกษียณให้ตัวเอง
สร้างมรดกให้คนรุ่นหลัง
ใช้เป็นเงินสำรองยามฉุกเฉินผ่านประกันแบบ IUL
สรุป:
ประกันชีวิต คือการแสดงความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ต่อครอบครัว
คือการบอกว่า “แม้ฉันจะไม่อยู่ตรงนี้แล้ว... แต่ฉันยังดูแลคุณอยู่”


บทที่ 2 ประกันชีวิตมีกี่ประเภท?
"เข้าใจง่าย ประกันชีวิตมีกี่แบบ ต่างกันยังไง?"
ประกันชีวิตแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ ดังนี้:
1. ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา (Term Life Insurance)
คุ้มครองเฉพาะช่วงเวลาที่กำหนด เช่น 10, 20 หรือ 30 ปี
ถ้าเสียชีวิตในช่วงนั้น คนข้างหลังจะได้รับเงิน
ค่าเบี้ยถูกที่สุด แต่ ไม่มีเงินคืนถ้าอยู่ครบสัญญา
เหมาะกับ: คนที่มีงบน้อย, ต้องการความคุ้มครองชั่วคราว เช่นช่วงมีหนี้บ้าน
2. ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ (Whole Life Insurance)
คุ้มครองจนถึงเสียชีวิต (ถ้าจ่ายเบี้ยครบตามแผน)
มีเงินสะสม (Cash Value) ที่เติบโตช้าแต่มั่นคง
ค่าเบี้ยแพงกว่า Term และ IUL แต่ให้ความมั่นคงระยะยาว
ความยืดหยุ่นมีน้อยมากถ้าเทียบกับ IUL
เหมาะกับ: คนที่ต้องการสร้างมรดก หรือวางแผนระยะยาว
3. 📈 ประกันชีวิตแบบควบการลงทุน (Indexed Universal Life – IUL)
คุ้มครองชีวิตแบบถาวร + มีเงินสะสมที่เติบโตตามดัชนีหุ้น
ปลอดภัยเพราะมี “การป้องกันขาดทุน” (Zero is your Hero)
ใช้เงินในกรมธรรม์ได้แบบปลอดภาษี (Tax-Free Retirement)
ยืดหยุ่นในการจ่ายเบี้ย
เหมาะกับ: คนที่ต้องการประกัน + ออม + ลงทุนในตัวเดียวกัน
🧾 คำศัพท์สำคัญที่ควรรู้
Death Benefit = จำนวนเงินที่ครอบครัวจะได้รับเมื่อผู้เอาประกันเสียชีวิต
Cash Value = เงินสะสมที่เติบโตในประกันบางแบบ (เช่น Whole Life หรือ IUL)
Premium = ค่าเบี้ยประกันที่เราต้องจ่าย
Riders = สัญญาเพิ่มเติม เช่น คุ้มครองโรคร้ายแรง, ทุพพลภาพ
สรุป:
“ไม่มีแบบไหนดีหรือแย่ที่สุด มีแต่แบบที่ เหมาะกับคุณที่สุด”
บางคนอาจเริ่มจาก Term ก่อน แล้วค่อยขยับไป IUL หรือ Whole Life เมื่อพร้อมก็ได้ค่ะ

บทที่ 3 ประกันชีวิตแบบไหน ใช่สำหรับคุณ?
"เราควรเลือกประกันชีวิตแบบไหนดีให้เหมาะกับเรา?"
ลองตั้งคำถามง่ายๆ ที่ช่วยให้คุณเลือกแบบประกันได้ตรงจุด:
1. คุณต้องการประกันเพื่ออะไร?
เพื่อ คุ้มครองครอบครัว ในกรณีที่คุณไม่อยู่ใช่ไหม?
หรือคุณอยากใช้ประกันเป็น การออมเงินระยะยาว?
หรืออยากให้เป็น แหล่งรายได้ปลอดภาษีตอนเกษียณ?
ถ้าคุณเน้นคุ้มครอง -> Term Life
ถ้าคุณอยากให้เงินเติบโต + ยืดหยุ่น + ปลอดภาษี -> IUL
2. งบประมาณของคุณอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่?
ถ้า งบน้อยแต่ต้องการความคุ้มครองสูง → Term Life
ถ้ามีงบมากขึ้น → IUL อาจเหมาะกว่า
💡 บางคนเริ่มจาก Term ก่อน แล้วค่อยเพิ่ม IUL เมื่อมีความมั่นคงมากขึ้นก็ได้นะคะ
3. คุณอยากให้ประกันช่วยในช่วงอายุเท่าไหร่?
แค่ช่วงที่มีหนี้สิน/ภาระ → Term
ตลอดชีวิตเพื่อส่งต่อมรดก, ค่าเล่าเรียนของลูก → IUL
เพื่อใช้ตอนเกษียณ → IUL
สรุปง่ายๆ:
“เลือกแบบประกันให้ตรงกับเป้าหมายชีวิต + ความสามารถในการจ่าย”
เพราะไม่มีแบบไหนดีที่สุด มีแต่แบบที่ เหมาะกับคุณที่สุด
Life Insurance with Living Benefits
ถ้าคุณอาศัยอยู่ที่ประเทศอเมริกา คุณจะต้องรู้จักประกันชีวิตประเภทนี้ เพื่อป้องกันการล้มละลายจากค่ารักษาพยาบาลที่จัดการไม่ได้ค่ะ กว่า 60% ของคนในอเมริกาล้มละลายเพราะไม่สามารถจ่ายค่ารักษาพยาบาลได้
“ประกันชีวิต…ไม่ได้มีไว้แค่ตอนเสียชีวิต!”
รู้ไหม? ประกันชีวิตบางแบบให้คุณ รับเงินก้อน ได้แม้ยังมีชีวิตอยู่!ถ้าคุณเจ็บป่วยด้วย โรคร้ายแรง เช่น มะเร็ง หัวใจวาย หรืออัมพฤกษ์คุณสามารถ เบิกเงินจากวงเงินคุ้มครองมาใช้ได้ทันทีไม่ต้องรอจนเสียชีวิตถึงจะได้เงิน!
Living Benefit หรือ สิทธิประโยชน์ขณะมีชีวิตอยู่ เป็นความคุ้มครองที่แนบมากับประกันชีวิตบางประเภท โดยให้คุณสามารถ เข้าถึงเงินจากกรมธรรม์ได้ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ หากคุณประสบกับโรคร้ายแรงหรือภาวะเจ็บป่วยที่รุนแรง เช่น
โรคมะเร็งระยะลุกลาม
หัวใจวายหรือเส้นเลือดในสมองแตก
ภาวะเจ็บป่วยระยะสุดท้าย
ทุพพลภาพถาวร
หรือไม่สามารถดูแลตัวเองได้ (เช่น ต้องการการดูแลระยะยาว)
แทนที่ต้องรอจนเสียชีวิตถึงจะมีการจ่ายเงิน Living Benefit ช่วยให้คุณสามารถรับเงินล่วงหน้า จากวงเงินคุ้มครอง เพื่อนำมาใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาล ค่าใช้จ่ายประจำวัน หรือดูแลครอบครัวในช่วงเวลาที่ยากลำบาก
ประโยชน์ของ Living Benefit:
ช่วยลดภาระทางการเงินในช่วงวิกฤติ
มีเงินใช้รักษาตัวโดยไม่ต้องกู้หนี้ยืมสิน
ทำให้ชีวิตคุณและครอบครัวเบาลงเมื่อเผชิญโรคร้าย
ใช้ได้จริง ไม่ต้องรอเสียชีวิต
ปลอดภาษี
ถ้าเจ็บป่วยหนักขึ้นมา คุณมีเงินเก็บอย่างน้อย $100,000 - $300,000 รึยัง? ถ้ายัง จะดีกว่ามั้ย ถ้าปล่อยให้บริษ้ทประกันเป็นคนดูแลรับผิดชอบไปค่ะ
ปัจจุบันนะคะ มีบริษัทประกันหลายบริษัทที่แถมความคุ้มครองโรคร้ายฟรี หรือ Living Benefits แต่ดาวขอแนะนำบริษัท National Life Group ที่โดดเด่นในเรื่องของ Living Benefits
1 Critical illness โรคร้ายแรง ต่างๆ ดังนี้
Cytic fibrosis (ซิสติก ไฟโบรซิส) โรคปอดเรื้อรัง
Diagnosis of ALS (Amyotrophic Lateral Sclerosis) โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง
End Stage Renal Failure โรคไตวายฉับพลัน
Heart Attack โรคหัวใจวาย
Heart Valve Replacement การเปลี่ยนลิ้นหัวใจ
Major Organ Transplant ปลูกถ่ายอวัยวะหลักๆ ในร่างกาย
Motor Neuron Disease โรคเสื่อมของเซลล์ประสาทสั่งการ
Stoke เส้นเลือดในสมองแตก
Sudden Cardiac Arrest ภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน
Cancer มะเร็งต่างๆ
2. Chronic illness เจ็บป่วยเรื้องรัง
ทุพพลภาพ และไม่สามารถทำกิจวัตรประจำวัน 2 ใน 6 อย่างได้ (Activities of Daily Living: ADLs) ดังนี้:
กินอาหารเองไม่ได้
อาบน้ำเองไม่ได้
ดินทางไปไหนมาไหนเองไม่ได้
ขับถ่ายเองไม่ได้
เปลี่ยน/ ใส่เสื้อผ้าเองไม่ได้
ลุกขึ้นเองไม่ได้
3. Critical Injury (ABR)
Coma สภาวะที่ผู้ป่วยหมดสติและไม่รู้สึกตัวเป็นเวลานาน
Paralysis อัมพาต
Severe Burns บาดแผลไฟไหม้ขั้นรุนแรง
Traumatic Brain Injury ภาวะสมองบาดเจ็บ
4. Alzheimer’s Disease โรคอัลไซเมอร์
5. Terminal illness ความเจ็บป่วยระยะสุดท้าย
หมอระบุว่าเป็นโรคที่รักษาไม่หาย และจะมีอายุเหลือเพียง 12 - 24 เดือน
หมายเหตุ: การเบิกเคลมเป็นไปตามที่บริษัทระบุ และการวินิจฉัยจากแพทย์
ข่าวดี!! ถ้าคุณเริ่มตั้งแต่อายุยังน้อย และสุขภาพแข็งแรง เบี้ยประกันจะไม่สูงมากค่ะ และไม่ใช่ทุกคนจะสามารถทำได้นะคะ ดังนั้น คุณควรเริ่มต้นตั้งแต่ตอนนี้ตอนที่ยังอายุน้อยและสุขภาพดีค่ะ เพราะหลายคนถูกปฏิเสธเพราะปัญหาสุขภาพค่ะ และเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมากๆ

พูดคุยกับดาวเพื่อวางแผนประกันชีวิตที่ตอบโจทย์ที่สุด
จะได้ไม่เสียเวลาไปทั้งชีวิตค่ะ
กรอกรายละเอียดด้านล่าง แล้วพูดคุยกันค่ะ
My Social Media
เรียนรู้เพิ่มเติมจากวิดิโอด้านล่างได้เลยค่ะ







